CloudFlare – เร่งความเร็วเว็บไซต์ แรงสุดสุด และฟรี

สวัสดีครับวันนี้ผมมีเว็บไซต์ ที่มีบริการดีๆ มาฝากกันครับ ชื่อว่า CloudFlare  ซึ่งเว็บนี้บริการ Domain Name Server คล้ายๆ OpenDNS นั่นละครับ ที่จะจัดการ Name Server ให้เราซึ่งตัว คลาวแฟร์ ตัวนี้จะดีกว่าตรงที่ จะช่วยปกป้องเว็บไซต์เรา และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงของเว็บไซต์ของเราครับ ด้วย CDN : Content Delivery Network ที่กระจายอยู่ทั่วโลก (13 แห่งสามมรถดุได้ที่ System Status)

เอาละมาดูการทำงานของ Cloudflare บ้างว่ามีหลักการทำงานอย่างไรนะครับ :)

แบบไม่ใช้บริการ Cloudflare (แบบปกติ)

  •  กรณีผู้ชมปกติ (Good Visitor) ก็จะเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณโดยตรง
  • กรณีเป็นบอทเก็บข้อมูล (Bot/Crawlers) ก็จะเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณโดยตรง
  • กรณีเป็นผู้ก่อการร้าย (Bad Visitor /Attrackers) เข้าถึงเว็บไซต์ของคุณโดยตรงเช่นกัน (ไม่ปลอดภัย)

แบบใช้บริการ Cloudflare

  •  กรณีผู้ชมปกติ (Good Visitor) ก็จะเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณโดยผ่าน CloudFlare ที่กระจายอยู่ทั่วโลก
  • กรณีเป็นบอทเก็บข้อมูล (Bot/Crawlers) ก็จะเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณโดยตรงโดยผ่าน CloudFlare ที่กระจายอยู่ทั่วโลก
  • กรณีเป็นผู้ก่อการร้าย (Bad Visitor /Attrackers) จะไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณโดยตรง เนื่องจาก ClousFlare จะช่วย Detect ให้

CDN : Content Delivery Network (ระบบเครือข่ายการจายเนื้อหา)
ระบบ CloudFlare นั้นจะใช้ CDN อยู่ทั่วโลก ตาม Map ที่เห็นในรูปนะครับ ซึ่งเราสามารถไปดู Status ได้ซึ่งการที่ได้ใช้ CDN นั้นจะช่วยทำให้การเข้าถึงเว็บนั้นเร็วขึ้น และช่วยประหยัด BW : Bandwidth ของเว็บไซต์ไปด้วยในการโหลดซ้ำ อีกทั้งเวลาที่เว็บไซต์ (จริง) ล่มถ้าเราใช้บริการ CloudFlare นั้นเราชี้ Name Server ไปที่ NS ของ CloudFlare ซึ่งเขาจะเซฟ Cache เว็บหน้าล่าสุดไว้ ทำให้เว็บจริงล่ม แต่เว็บไม่เป็นหน้าขาว เนื่องจากระบบของ CloudFlare ซึ่งผมชอบตรงนี้ครับ เพราะเว็บ Comseeit เคยล่มครั้งหนึ่ง (ที่เคยเจอกับตัวนะ) ตอนนั้นมันฟ้องว่า error 501 internal server error แต่หน้าเว็บไม่ขาว CloudFlare ช่วยไว้ได้ แต่จะขึ้นเตือนไว้ว่า “หน้าที่คุณเห็นอยู่นี้ เป็นหน้า แคชของคลาว์นแฟลร์นะ ” ตรงข้างบนสุดของเว็บไซต์

  • ไม่ต้องตั้งค่าให้ยุ่งยาก เพียงแค่ชี้ Name Server มาที่ CloudFlare เท่านั้นจบ ! 
  • สามารถทำงานร่วมกับเว็บที่มีเนื้อหาคงที่พวก HTML ได้ และเว็บที่มีเนื้อหาไม่คงที่ได้พวก PHP และอื่นๆ
  • มั่นใจได้เลยว่าเว็บจะออนไลน์ทำงานอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากจะมีระบบ Cache เก็บเว็บไซต์เสมอๆ
  • ช่วย ติดตาม ป้องกัน ต่อต้านผู้ไม่หวังดี ที่กำลังเข้าถึงเว็บของคุณ (ในระดับหนึ่ง)
  • สามารถใช้ IPV6 ได้อัตโนมัติโดย (ผมยังไม่ทราบแน่ชัดกับเรื่องนี้นะครับ ^^)
  • การันตีที่ระดับ 99.999% สุดยอดเพราะระบบ Cache นั้นเองที่ช่วยให้เว็บออนไลน์ตลอดเวลา
  • สามารถทำงานร่วมกับ CDN อื่นๆได้โดยปกติ

Rocket Loader (รวดเร็วเปรียบเสมือนเว็บติดจรวด)
ซึ่งทางเทคนิคจใช้การ เร่งประสิทธิภาพของ CSS และ JavaScript ต่างๆ จำพวก Google Adsense, Facebook gadget, Twitter gadget รวมไปถึงเว็บที่ต้องใช้ CSS ในการจัด layouts ต่างๆ ด้วยซึ่งผมคิดว่าระบบ ClodFlare น่าจะจดจำว่า อันไหนใช้บ่อยๆ เดิมๆ ก็จะทำการเก็บ Cache ไว้ทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยลดจำนวนการ request ไปยัง server หลักของเราครับ

  • สามารถ เปิด-ปิดได้อย่างง่ายดาย กรณีที่เรากำลังพัฒนาเว็บเราต้องการ Real-time response ครับ
  • จำกัดอัตโนมัติ ก็คือจัดการพวก CSS, JavaScript ของเว็บไซต์ครับผม
  • ไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม ดีที่ต้องนี้อีกละครับผม ฮาๆ
  • ใช้ GZip ในการช่วยบีบอัด CSS เว็บไซต์
  • รองรับการใช้งานผ่าน  อุปกรณ์มือถือ Mobile ต่างๆ

CloudFlare Security (ระบบความปลอดภัย)
ถือว่าเป็นตัวชูโรงเลยนะครับ เป็นความสามารถหลักเลยก็ว่าได้ ที่สามารถจัดการด้านความปลอดภัยได้ ซึ่งก็จะเป็ลักษณะกราฟ ดังกล่าวละครับ ซึ่งกราฟสีเขียวแทน BW ที่มาจาก Good Visitor กับ Bot ส่วนสีแดงมาจาก Attackers ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจน ในระดับ IP ที่บ่งบอกถึงภูมิภาคและลักษณะพฤติกรรมที่โจมตีเว็บไซต์

  • สามารถแสดง การโจมตี ทั้งหมดได้ แบ่งตามประเทศเลยละครับ ^^
  • รองรับ Browser ทุกชนิดครับผม
  • จะมีการสร้าง ฐานข้อมูลของผู้เยี่ยมชม 
  • เราสามารถ Block IP ได้ สร้าง White List กับ Black List ได้ครับผม
  • ช่วยลดจำนวนการโอน-ถ่ายข้อมูลของเว็บไซต์ Bandwidth 

CloudFlare Analytic (สถิติของเว็บไซต์)
ตัวนี้ก็ถือเป็นคุณสมบัติเด่นของ Cloudflare เลยก็ว่าได้ครับ แต่มันจะเก็บข้อมูลไม่ Real-time เหมือน Google analytics ซึ่งเราสามารถดูสถิติได้ส่วนหนึ่งละครับ ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ เนื่องจากเขาจะเก่งในเรื่องของการจัดการ Attackers มากกว่า เขาเลยให้ความสนใจไปที่ Visitors ที่เข้าชมเว็บของเรา และพฤติกรรมของ Visitors ด้วยครับผม

ครับผม ก็คุณสมบัติคร่าวๆ ที่ผมยกมาก็น่าจะตัดสินใจลองใช้บริการได้ครับผม ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปที่เว็บCloudFlare ได้ครับผมเอ้าลืมบอกว่า บริการนี้ ฟรี นะครับ ฟรี 100% แบบไม่มีจำกัดเว็บไซต์ ครับผม แต่จำกัดที่คุณสมบัติบางส่วน ซึ่งถ้าใครมีกำลังทรัพย์มากพอ หรือต้องการประสิทธิภาพเต็มที่ก็สามารถเสียค่าบริการได้ครับผม

วิธีการสมัครและการเพิ่มเว็บไซต์

  • ก่อนอื่นเลยก็ต้องสมัคร Register กับเว็บ CloudFlare ก่อนครับ จากนั้นก็ Verify E-mail ครับ
  • ต่อไปเป็นการ Add Web site ก็ให้ทำการขั้นตอนที่บอกไว้ครับ ทีละ Step ไม่ยากครับ
  • ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า ให้ เปลี่ยน Name Server ของ Domain นั้นมาที่ Name Server ของ CloudFlare ที่เตรียมไว้
  • จากนั้นก็ตรวจสอบว่ามี Record อะไรบ้าง ที่จะใช้ enable/disable คุณสมบัติของ CloudFlare ครับผม

ขอบคุณที่มารูปภาพ และเนื้อหา : CloudFlare

Leave a Reply

Your email address will not be published.